วันที่ 13 กรกฎาคม 2562 ณ ห้องประชุมอาคาร 17 ศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นประธานกล่าวเปิดงานเสวนาวิชาการ “เหลียวหลัง แลหน้า การฝึกหัดครูไทย” โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ อธิการบดี ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู ศึกษานิเทศก์ และผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ร่วมกับ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และคุรุสภา การจัดงานเสวนาครั้งนี้ โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิในการกล่าวสุนทรพจน์ เสวนาเกี่ยวกับการฝึกหัดครูไทย และการร่วมอภิปราย ระดมความคิดจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิ บุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งผู้ที่สนใจ เกี่ยวกับแนวทางในการผลิตและพัฒนาครูอันจะก่อให้เกิดการนำเสนอองค์ความรู้ ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ ต่อการผลิตบัณฑิตครุศาสตร์ และยังเป็นการถอดบทเรียน เพื่อยกระดับการฝึกหัดครูไทย รวมทั้งเกิดการระดมสมองเพื่อหาแนวทางการจัดครุศึกษาที่เหมาะสมกับสังคมอนาคต
ผู้เข้าร่วมงาน ประกอบด้วยผู้แทนจากสภาการศึกษา คุรุสภา คณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู รวมทั้งศึกษานิเทศก์ และนักวิชาการอิสระ จำนวน 300 คน
ดร.สุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา กล่าวในพิธีเปิดว่า สภาพปัจจุบันวิชาชีพครูประสบปัญหาทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ วิกฤตศรัทธาต่อวิชาชีพครูยังส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนที่เข้าศึกษา ในสถาบันผลิตครู ระบบการผลิตครูขาดความต่อเนื่องและไม่สอดคล้องกับความจำเป็นในการใช้ครู ขาดเอกภาพในเชิงนโยบาย และมาตรฐานของสถาบันผลิตครูที่ยังมีความเหลื่อมล้ำกัน เนื่องมาจากสภาพ และปัญหาระบบการผลิตครูในภาพรวม
สภาการศึกษามีหน้าที่สำคัญประการหนึ่งในการเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษาของชาติ โดยดำเนินงานด้านการผลิตและพัฒนาครูร่วมกับคุรุสภา ซึ่งเป็นองค์กรวิชาชีพที่มีระบบและกลไกในการส่งเสริม สนับสนุน เชื่อมโยงการผลิต และพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครู ซึ่งต้องมีการเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการฝึกหัดครู จากภาคีครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ อันจะก่อให้เกิดการนำเสนอองค์ความรู้ ประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการผลิตบัณฑิตครุศาสตร์ และยังเป็นการถอดบทเรียนเพื่อยกระดับการฝึกหัดครูไทย รวมทั้งเกิดการระดมสมองเพื่อหาแนวทางการจัดครุศึกษาที่เหมาะสมกับสังคมอนาคต และเป็นข้อมูลสำคัญที่จะใช้ในการสื่อสารกับสังคมได้ในวงกว้าง
ข่าวโดย : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี