Sidebar

มรภ.อุดรธานี ขับเคลื่อนพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ ชูจุดเด่นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้การเกษตรแบบสมาร์ทฟาร์ม พร้อมร่วมกิจกรรมเกี่ยวข้าวในแปลงนาอินทรีย์สาธิต สืบสานวิถีชุมชนท้องถิ่น

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ณ พื้นที่โครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนอ่างเก็บน้ำห้วยคล้าย ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ผศ.จรูญ ถาวรจักร์ อธิการบดี มรภ.อุดรธานี พร้อมด้วย ชาวบ้านโคกล่ามแสงอร่าม อาจารย์ นักศึกษา ผู้จ้างงาน U2T ต.กุดหมากไฟ ส่วนราชการในพื้นที่ และหน่วยงานส่วนท้องถิ่น ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับท้องถิ่น และเยี่ยมชมพื้นที่แปลงนาอินทรีย์สาธิต ผศ.จรูญ กล่าวว่า มรภ.อุดรธานี ทำโครงการบริการวิชาการในพื้นที่บ้านโคกล่ามแสงอร่ามหลายโครงการ พร้อมจะผลักดันให้มีการพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่คนสามารถมาเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ และท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวภายใต้หลัก BCG ที่บูรณาการหน่วยงานต่างๆ เข้ามาทำงานร่วมกัน ให้เศรษฐกิจฐานรากมีการขับเคลื่อน โดยวันนี้ได้มาร่วมกิจกรรมการเกี่ยวข้าวลาย เพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้ปลูกในปีถัดไป

ดร.วิบูล เป็นสุข รองอธิการบดี กล่าวว่า ในปีนี้มหาวิทยาลัย ได้นำเอาประเด็นเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชื่อมโยงไปถึงแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียง อาทิเช่น วัดภูตะเภาทอง วัดภูสังโฆ ซึ่งเมื่อฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา คณะทำงานได้คิดรูปแบบใหม่ด้านการตลาด โดยให้อาจารย์และนักศึกษา สาขาวิชาทัศนศิลป์และการออกแบบ คณะมนุษยศาสตร์ฯ ออกแบบแปลงนาให้มีรูปภาพที่เกี่ยวข้องกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ โดยใช้แปลงนาของเกษตรกรสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปลูกข้าว ซึ่งอยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยคล้าย เป็นทำเลที่มีความสวยงาม มีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ เป็นพื้นที่สำหรับดำเนินการ เพื่อดึงดูดให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในชุมชน พร้อมชูจุดเด่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เน้นนักท่องเที่ยวที่อยากมาเรียนรู้การเกษตรแบบสมาร์ทฟาร์ม มีกิจกรรมเสริมให้ทำ อาทิ สาธิตการดำนา การเกี่ยวข้าว เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน

ดร.วิบูล กล่าวอีกว่า ความคาดหวังของโครงการในครั้งนี้ ไม่ได้หยุดอยู่ที่การทำแปลงนาให้เป็นรูปภาพและดึงดูดนักท่องเที่ยวเฉพาะในช่วงฤดูทำนาเท่านั้น แต่ยังหวังที่จะต่อยอดให้ชุมชนได้ช่วยกันคิดสร้างสรรค์กิจกรรมที่จะสามารถจูงใจให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อาทิเช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหารสร้างสะพานไม้ไผ่ให้สามารถเดินเข้าไปชมได้ในแปลงนา ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ เช่น คอสมอส เบญจมาศ ปลูกผักผลไม้เมืองหนาว เช่น สตรอเบอร์รี่-เมล่อนในโรงเรือน หรือการทำโปรแกรมอบรมระยะสั้นให้กับผู้ที่สนใจ เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากพืชที่ปลูกตามฤดูกาล เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่ และมาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าที่เป็นผลผลิต สร้างรายได้ สร้างความยั่งยืนสู่ชุมชนได้อีกทางหนึ่ง

01

01

01

01

01


ข่าวโดย : งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี


ปฏิทินการศึกษา/กิจกรรม

Social Media